การตลาดเชิงรุก
โดย Dyckia From " Q "
หลังจากพัฒนาสายพันธุ์อย่างจริงจัง จนกระทั้งได้ไม้ที่มีคุณภาพและมีปริมาณไม้ที่มากพอ ลำดับต่อไป...
คือจะต้องทำอย่างไร เราถึงจะสามารถกระจายไม้ออกสู่ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ราคาที่สุด
การตลาดแบบเก่าเร่งระบายไม้ออกสู่ตลาด พยายามแข่งกันขายถูกลดราคา เพื่อให้ขายไม้ได้ไม่ใช่ทางออก
รูปที่ 1 ในเมื่อเราพัฒนาสายพันธุ์จนไม้ของเราสวย แตกต่างและไม่เหมือนใคร
การกำหนดราคาและการตั้งราคาไม้เราให้ได้มาตรฐาน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีและยั่งยืนกว่า
ด้วยความเชื่อที่ว่าไม้สวยยังไงก็ไม่มีวันตาย
รูปที่ 2 ดังนั้นการทำตลาดเชิงรุกน่าจะดีและเป็นประโยชน์ในระยะยาว
เริ่มจากการคัดไม้สวยได้คุณภาพ และตรงตามสายพันธุ์ออกมาขาย
กำหนดราคาขายจากหน้าตาไม้และไล่ลำดับความยากง่ายของสายพันธุ์
รูปที่ 3 ไม้สวยได้คุณภาพสายพันธุ์ดี จะขายได้ราคา
พยายามกำหนดราคาไม้ของเราให้เป็นมาตรฐาน ตามความสวยและเกรดไม้
เมื่อไม้เราสวยได้คุณภาพเเละแตกต่างไม่เหมือนใคร.....
รูปที่ 4 หากเรามีสิ่งเหล่านี้ครบ ไม่ต้องกลัวหรือกังวลว่าไม้เราจะขายไม่ได้
ไม้สวยได้คุณภาพมีจำนวนน้อย ราคาต้องสูงเป็นเรื่องปกติ
รูปที่ 5 ไม้หน้าตากลางๆรองลงมา เราก็ไล่ราคาเกลี่ยไป เพื่อให้ดูคุ้มค่าจูงใจ
รูปที่ 6 ตรรกะง่ายๆของการตลาด
ไม้สวยสายพันธุ์ดีมีน้อย ราคาก็ย่อมสูง ผู้ซื้อจะยอมรับได้เอง ต้องใช้เวลาบ้าง
รูปที่ 7 ไม้เกรดกลาง ปริมาณพอสมควร ราคาสบายๆ ต้องมีจำนวนให้ลูกค้าเลือก
ไม้หน้าตาธรรมดา มีจำนวนมาก ทำอย่างไรจึงจะเพิ่มคุณค่าให้กับเค้า
รูปที่ 8 สิ่งที่จะช่วยเราได้มากที่สุดคือสภาพเเวดล้อมในการเลี้ยงไม้ และความเอาใจใส่ของเราเอง
ไม้ดีคุณภาพสูงมีจำนวนน้อย ราคาสูง สวยที่สุดเมื่อไร จะขายได้ราคาดีมากๆ
รูปที่ 9 ไม้เกรดกลาง ต้องมีหลากหลายได้ฟอร์มสวย และมีจำนวนให้ลูกค้าเลือก
ไม้ธรรมดาพื้นๆ ควรเลี้ยงให้สวยได้ฟอร์มเพื่อเพิ่มคุณค่าให้เค้า
ประมาณนี้ครับ หลักการและตรรกะง่ายๆ ถ้าไม้เราสวยเด่นแตกต่าง ยังไงไม้ก็จะขายได้ด้วยตัวเค้าเองครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น